tag:blogger.com,1999:blog-5030407575111442332024-03-12T17:10:29.299-07:00นางในวรรณคดีAnonymoushttp://www.blogger.com/profile/09831489142569809494noreply@blogger.comBlogger7125tag:blogger.com,1999:blog-503040757511144233.post-7133276767752956942012-09-18T04:20:00.003-07:002012-09-18T04:20:34.753-07:00<div class="separator" style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none; clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhQ0MzFpnhdIJVZXQiToQUJeXdDLJysdL2HOCBs_usgwf4hc1GOV9rArdfWKNMpI9TqMS2MBZFWUEw67hI5aG0LnJ8y6dYR-wk7iWHD7u_SLZZhL7aT0D5_mReAf1fTQuhvmackbFUDXpA/s1600/46_3lH596962-02.jpg" imageanchor="1" style="clear: right; cssfloat: right; float: right; margin-bottom: 1em; margin-left: 1em;"><img border="0" hea="true" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhQ0MzFpnhdIJVZXQiToQUJeXdDLJysdL2HOCBs_usgwf4hc1GOV9rArdfWKNMpI9TqMS2MBZFWUEw67hI5aG0LnJ8y6dYR-wk7iWHD7u_SLZZhL7aT0D5_mReAf1fTQuhvmackbFUDXpA/s320/46_3lH596962-02.jpg" width="232" /></a></div>
<strong><span style="color: darkgreen;"><div class="thumb tright">
<div class="thumbinner" style="width: 252px;">
<div class="thumbcaption">
<a href="http://www.blogger.com/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1" title="วัดพระศรีรัตนศาสดาราม"><span style="color: #0645ad;"></span></a> </div>
</div>
</div>
<span style="font-size: x-large;">กินรี</span> <br />
<br />
กินรีมีต้นกำเนิดที่แท้จริงเป็นมาอย่างไรนั้นยังไม่พบตำราไหนกล่าวไว้ชัดเจน แต่ในเทวะประวัติของพระพุธกล่าวไว้ว่า เมื่อท้าวอิลราชประพาสป่าแล้วหลงเข้าไปในเขตหวงห้ามของพระศิวะนั้น ท้าวอิลราช และบริวารถูกสาปให้แปลงเพศเป็นหญิงทั้งหมด ต่อมานางอิลา คือ ท้าวอิลราชถูกสาป และบริวารที่มาเล่นน้ำอยู่ใกล้อาศรมของพระพุธ เมื่อพระพุธเห็นนางเข้าก็ชอบ รับนางเป็นชายา และเสกให้บริวารของนางกลายเป็น กินรี โดยบอกว่าจะหาผลาหารให้กิน และจะหากิมบุรุษให้เป็นสามี แสดงว่า กิมบุรุษ หรือ กินนร และกินรีมีต้นกำเนิดมาจากการเสกของพระพุธ<br />
ในหนังสือของ พี.ธอมัส กล่าวว่าที่เชิงเขาเมรุเป็นที่อยู่ของคนธรรพ์ กินร และสิทธิ์ และว่าคนธรรพ์กับกินนรเป็นเชื้อสายเดียวกัน ส่วนในภัลลาติชาดก กล่าวว่า กินนรมีอายุ ๑,๐๐๐ ปี และธรรมดากินนรนั้นย่อมกลัวน้ำเป็นที่สุด ซึ่งน่าจะขัดแย้งกับอุปนิสัยกินนรในเรื่องพระสุธน เพราะนางมโนห์ราชอบไปเล่นน้ำที่สระกลางป่าหิมพานต์ จึงถูกพรานบุญดักจับตัวได้</span></strong>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/09831489142569809494noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-503040757511144233.post-28355014821271207172012-09-18T04:16:00.004-07:002012-09-18T04:16:37.125-07:00<div class="separator" style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none; clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjhtIDDJq2NsvmdIeCv82OgfwcFKcVCuq4yM6yDceusSvS_CiriVz19XR1tRujL99W8RdT3mQbyW8eppbAVQXZ0DCodI-iVU8snBltmJWGzzsZMxUdi2K9Fpx5r_6SaI8tVDi40mszIjRg/s1600/100_1822.jpg" imageanchor="1" style="clear: right; cssfloat: right; float: right; margin-bottom: 1em; margin-left: 1em;"><img border="0" hea="true" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjhtIDDJq2NsvmdIeCv82OgfwcFKcVCuq4yM6yDceusSvS_CiriVz19XR1tRujL99W8RdT3mQbyW8eppbAVQXZ0DCodI-iVU8snBltmJWGzzsZMxUdi2K9Fpx5r_6SaI8tVDi40mszIjRg/s320/100_1822.jpg" width="221" /></a></div>
<span style="color: darkgreen;"><span style="font-size: x-large;"><strong>นางสุวรรณม</strong><strong>าลี</strong></span></span><strong><span style="color: darkgreen;"></span></strong><br />
<br />
<strong><span style="color: darkgreen;"> นางสุวรรณมาลีลูกสาวแสนสวยของ ท้าวสิลราช เจ้าเมืองผลึก ได้ฝันเห็นเกาะในทะเล จึงออกเดินทางตามความฝัน ระหว่างทางเจอพายุเรือถูกพัดมาที่เกาะแก้วพิสดาร พระอภัยมณีกับสินสมุทรจึงขอติดเรือไปด้วย แต่ออกจากเกาะไม่ทันไรก็เจอนางผีเสื้อสมุทรอาละวาดจนเรือล่ม ท้าวสิลราชสิ้นชีพ พระอภัยมณีจำต้องเป่าปี่สังหารนางผีเสื้อสมุทร<br /><br />พระอภัยพานางสุวรรณมาลีกลับเมืองผลึก นางมณฑาเต็มใจยกทั้งเมืองและลูกสาวให้พระอภัยมณี นางสุวรรณมาลีจึงได้เป็นเมียคนที่3ของพระอภัยฯ แต่เป็นเมียที่เป็นมนุษย์คนแรก มีลูกสาว2คนคือ สร้อยสุวรรณ จันทรสุดา ซึ่งถือเป็นเมียที่มีความเพรียบพร้อมมากที่สุด ทั้งรูปร่างหน้าตา อุปนิสัย สติปัญญา ชาติตระกูล ฐานะ</span></strong>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/09831489142569809494noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-503040757511144233.post-46378263088055090582012-09-18T04:14:00.004-07:002012-09-18T04:14:50.028-07:00<div class="separator" style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none; clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj5x_7nDWtJ2Oe3wqhm47FMKRc7u7Q8SQaLM4dq0TJ8vRmTbIQgxle1pOFAgDwiQlA_9K-Eal3PIXxDFv26Idc1te2V2VXbfDe60ANBNXqWannQ5nIPHA4sZw9NzuvyJrQGl5vmoxwWCNg/s1600/image-16.jpg" imageanchor="1" style="clear: right; cssfloat: right; float: right; margin-bottom: 1em; margin-left: 1em;"><img border="0" hea="true" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj5x_7nDWtJ2Oe3wqhm47FMKRc7u7Q8SQaLM4dq0TJ8vRmTbIQgxle1pOFAgDwiQlA_9K-Eal3PIXxDFv26Idc1te2V2VXbfDe60ANBNXqWannQ5nIPHA4sZw9NzuvyJrQGl5vmoxwWCNg/s1600/image-16.jpg" /></a></div>
<strong><span style="color: darkred;"><span style="font-size: x-large;"> นางวาลี</span><br /><br /></span><span style="color: darkgreen;">เมียคนที่ 4 ของพระอภัยดูจะต่างจากคนที่ผ่านมา เพราะนางวาลีจัดว่าเป็นเมียที่ขี้เหร่ที่สุด แถมยังมาเสนอตัวขอให้พระอภัยมณีเป็นสามีเองอีก แรกเริ่มเดิมทีพระอภัยมณีเองก็ไม่เต็มใจนัก แต่นางวาลีเป็นผู้หญิงที่มีสติปัญญาและวาจาเป็นเลิศ เพราะสามารถเกลี้ยกล่อมชักแม่น้ำทั้งห้า โน้มน้าวใจให้รับนางเป็นเมียจนได้ <br /><br />แม้ว่านางจะไม่สวย แต่ถ้าเทียบกับเมียคนอื่น นางวาลีถือเป็นเมียที่ฉลาดที่สุด และพระอภัยฯก็คุ้มมากที่ตัดสินใจรับนางเป็นเมีย เพราะนางได้ช่วยพระอภัยให้คืนดีกับนางสุวรรณมาลี และยังช่วยวางแผนในการทำศึกสงครามอีกหลายครั้ง<br /><br />นางวาลี มีรูปร่างหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ ตัวดำ ที่ใบหน้ามีรอยแผลเป็นเต็มไปหมด จึงอยู่เป็นสาวโสดจนอายุได้ 34 ปี แต่นางก็ใฝ่ฝันว่าอยากมีสามีรูปงามและสูงศักดิ์ พ่อแม่ของนางตายหมดตั้งแต่นางยังเด็กจึงอาศัยอยู่กับตายาย นางวาลีได้ศึกษาเล่าเรียนตำรับตำราของตาจนมีความรู้แตกฉาน เมื่อ พระอภัยมณี ประกาศรับสมัครคนดีมีฝีมือเข้ารับราชการ นางวาลีก็ไปสมัคร และขอให้พระอภัยมณีแต่งงานกับนางด้วย พระอภัยมณีเห็นว่านางมีสติปัญญาเป็นเลิศและมีความรู้ดี จึงแต่งตั้งให้นางเป็นสนมเอก นางเป็นผู้ออกอุบายให้จับตัว อุศเรน ได้ และใช้วาจาพูดเยาะเย้ยจนอุศเรนอกแตกตาย แต่นางถูกปีศาจของอุศเรนเข้าสิงร่างจนป่วยหนักและถึงแก่ความตายในที่สุด </span></strong>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/09831489142569809494noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-503040757511144233.post-83183378043789160472012-09-18T04:12:00.004-07:002012-09-18T04:12:40.227-07:00<div class="separator" style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none; clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiKwU-0zQcfNaMqNQ3i5J_1_yGxZrH1z2UzffcPhuomaH6rBOyY2EWpRNf_fE4YVJGJGf14tx5EULm3D3kpMddda75z89dgjq_nEo6SkiJ6kjCyLtLIzLXn_iTgsGQQ-KpfoaxY3Z_zTLQ/s1600/laweng.jpg" imageanchor="1" style="clear: right; cssfloat: right; float: right; margin-bottom: 1em; margin-left: 1em;"><img border="0" hea="true" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiKwU-0zQcfNaMqNQ3i5J_1_yGxZrH1z2UzffcPhuomaH6rBOyY2EWpRNf_fE4YVJGJGf14tx5EULm3D3kpMddda75z89dgjq_nEo6SkiJ6kjCyLtLIzLXn_iTgsGQQ-KpfoaxY3Z_zTLQ/s320/laweng.jpg" width="232" /></a></div>
<span style="color: darkred;"><strong><span style="font-size: x-large;">นางละเวงวัลฬา</span></strong></span><span style="color: darkgreen;"><strong> เมียคนสุดท้ายคือ นางละเวง ซึ่งมีนิสัยออกจะเป็นนางร้ายสักหน่อย แค้นเคืองที่พี่ชาย(อุศเรน) เสียชีวิต จึงส่งรูปตัวเองไปยังเจ้าเมืองต่างๆหลอกให้ไปตีเมืองผลึก ว่ากันว่านางละเวงที่มีเชื้อสายเป็นฝรั่งมีรูปงามยิ่งนัก ขนาดพระอภัยฯได้เห็นแค่รูปยังหลงใหลพรํ่าเพ้อ <br /><br />เมื่อคราวรบกัน พระอภัยมณีไม่ยอมให้นางละเวงหนี จึงเป่าปี่และเผยตัวให้พบจนนางละเวงหวั่นไหวไปเหมือนกัน ภายหลังเมื่อนางละเวงจับตัวพระอภัยได้ จึงกลับตกหลุมรักทันทีที่เห็นหน้า ยิ่งเจอไม้ตาย คำมั่นสัญญา ของพระอภัยมณีที่ว่า<br /><br /></strong></span><strong><span style="color: red;">ถึงม้วยดินสิ้นฟ้ามหาสมุทร ไม่สิ้นสุดความรักสมัครสมาน <br />แม้อยู่ในใต้หล้าสุธาธาร ขอพบพานพิศวาสไม่คลาดคลา <br />แม้นเนื้อเย็นเป็นห้วงมหรรณพ พี่ขอพบศรีสวัสดิ์เป็นมัจฉา <br />แม้เป็นบัวตัวพี่เป็นภุมรา เชยผกาโกสุมปทุมทอง <br />แม้เป็นถ้ำอำไพใคร่เป็นหงษ์ จะร่อนลงสิงสู่เป็นคู่สอง <br />ขอติดตามทรามสงวนนวลละออง เป็นคู่ครองพิศวาสทุกชาติไป </span><br /><br /><br /><span style="color: darkgreen;">นางละเวง จึงใจอ่อนยอมเป็นเมียคนที่5ของพระอภัยมณี </span></strong>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/09831489142569809494noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-503040757511144233.post-87142860856861111952012-09-18T04:10:00.000-07:002012-09-18T04:10:08.774-07:00<div class="separator" style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none; clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjDkFa1X0BQAhBnM85J066fxTh5LqTEzP38dENTIJVfKhIMZ_L-TBXw8wEV6YwfijHFfUPSvCUNDg1YgBv99GIQ5uDch1jgq2dTvmhKCHPG6e4l531_wDuEVW-taKCl7xEv4Wq61oIGWZ4/s1600/20090712120213.jpg" imageanchor="1" style="clear: right; cssfloat: right; float: right; margin-bottom: 1em; margin-left: 1em;"><img border="0" hea="true" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjDkFa1X0BQAhBnM85J066fxTh5LqTEzP38dENTIJVfKhIMZ_L-TBXw8wEV6YwfijHFfUPSvCUNDg1YgBv99GIQ5uDch1jgq2dTvmhKCHPG6e4l531_wDuEVW-taKCl7xEv4Wq61oIGWZ4/s320/20090712120213.jpg" width="242" /></a></div>
<br />
<br />
<span style="font-size: x-large;"> นางอัปสร</span><br />
<br />
<br />
นางอัปสรที่ใกล้คนไทยที่สุดเห็นจะเป็นนางอัปสรนครวัด ของไทยเราไม่มีนางอัปสรที่เด่นชัดขนาดนั้น <br />แต่ถ้าเป็นนางฟ้าถือพานโปรยดอกไม้วาดไว้ตามบัตรอวยพรรุ่นเก่าๆ หรือตามผนังโบสถ์ละก็ มีเยอะ<br /><br />มาคุยกันเรื่องนางอัปสรดีกว่า<br />อัปสร มาจากภาษาสันสกฤต ถ้าบาลีเรียกว่าอัจฉรา เรารับมาทั้งสองคำ ใช้ในความหมายว่านางฟ้า<br />ต้นกำเนิดของนางอัปสร มาจากตำนานการกวนเกษียณสมุทร หลังจากเทพและอสูรกวนเกษียณสมุทรเพื่อเอาน้ำทิพย์แล้ว สิ่งที่ผุดขึ้นจากการกวนมีหลายอย่าง หนึ่งในจำนวนนั้นคือกลุ่มนางอัปสร เป็นหญิงงามทั้งหมด<br /><br />แต่จะด้วยอะไรก็ตาม หญิงเหล่านี้ไม่มีเทวะองค์ไหนรับไปเป็นชายาประจำตัวเสียให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดลงไป คงปล่อยนางไว้ลอยๆ บนสวรรค์<br /><br />แต่จะว่าเป็นอิสระมีสิทธิสตรีแบบหญิงแกร่งก็ไม่ใช่ เพราะเทพมักจะใช้นางอัปสรลงไปปฏิบัติงานบนโลกเป็นประจำ หน้าที่หลักก็คือไปยั่วยวนทำลายตบะของฤาษีที่ทำท่าว่าบำเพ็ญนานแล้วจะเก่งกว่าเทวดา พอฤาษีเสียที นางก็กลับขึ้นสู่สวรรค์ <br />แต่บางครั้งเคราะห์ร้าย ถูกฤาษีโกรธสาปเอาให้มีอันเป็นไปก็มี ส่วนเทวดาผู้ใช้นางไปทำงานนั้นกลับรอดตัว ไม่แฟร์เท่าไหร่เลยนะคะ<br /><br />นางอัปสรชื่อเมนกา เคยไปทำลายตบะของฤาษีวิศวามิตรสำเร็จ มีลูกสาวออกมาชื่อศกุนตลา พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าทรงพระราชนิพนธ์เรื่องของนางไว้ชื่อ "ศกุนตลา" เป็นของขวัญแด่พระคู่หมั้น คือพระวรกัญญาปทานAnonymoushttp://www.blogger.com/profile/09831489142569809494noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-503040757511144233.post-76909187731426063702012-08-06T20:45:00.002-07:002012-08-06T20:45:46.433-07:00<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgKxesFbzfTnNozPuTKjGleVnE6mb1f1nm_NhoUtR8yZ0ZcNnpBFE5GSA4jIwd567Hs-GUe_LkUuhKgSKGdpxypynvPVkRUVY0XNoHP3NTs7zBM-M8RM6TYfm9rvVhOYMU4aHQL9ghr-U4/s1600/images.jpeg" imageanchor="1" style="clear: right; float: right; margin-bottom: 1em; margin-left: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgKxesFbzfTnNozPuTKjGleVnE6mb1f1nm_NhoUtR8yZ0ZcNnpBFE5GSA4jIwd567Hs-GUe_LkUuhKgSKGdpxypynvPVkRUVY0XNoHP3NTs7zBM-M8RM6TYfm9rvVhOYMU4aHQL9ghr-U4/s1600/images.jpeg" /></a></div>
<span style="font-size: x-large;"> นางเงือก</span><br />
<br /> <br />
สิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างคล้ายกับมนุษย์เพียงแต่มีขาเป็นหางปลา
และมักอาศัยอยู่ในท้องทะเลอันกว้างใหญ่แทนที่จะเดินอยู่บนแผ่นดิน
อาจเป็นเรื่องราวในตำนานที่เล่าขานสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคน
ทว่าสำหรับชาวประมงแล้วนี่เป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่มีอยู่จริงซึ่งพวกเขา
เคยมีโอกาสพบเห็นในโลกลี้ลับใต้ท้องทะเล<br />
<br />
การค้นหาความจริงเกี่ยวกับการขึ้นมาเกยตื้นของวาฬทั้งในวอชิงตันและแอฟริกา
ใต้
ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นผลมาจากการทดสอบโซนาร์ของกองทัพเรือสหรัฐ
ทำให้พวกเขาพบเจอกับสิ่งมีชีวิตอีกชนิดที่โลกยังไม่เคยรู้จักโดยบังเอิญ
ซึ่งทำให้เรื่องราวของพวกเขาไม่ได้เป็นเพียงตำนานอีกต่อไป<br />
<br />
ปี ค.ศ. 1997
นักวิทยาศาสตร์จากองค์การบริหารบรรยากาศและมหาสมุทรแห่งชาติของสหรัฐ
หรือเอ็นโอเอเอ (NOAA) ได้บันทึกเสียงลึกลับได้ในมหาสมุทรแปซิฟิก
จากประวัติศาสตร์ 50 ปีของโครงการวิจัยเสียงในทะเลลึกของเอ็นโอเอเอ
มันเป็นเสียงเดียวที่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นเสียงอะไร
เสียงบันทึกนี้ถูกขนานนามว่า “บลูพ”
และพวกเขาคิดว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีใครรู้จัก<br />
<br />
เช้าตรู่วันหนึ่งในเดือนเมษายนปี ค.ศ. 2004
เด็กชายสองคนในรัฐวอชิงตันเป็นคนแรกที่มาถึงสถานที่เกิดเหตุวาฬเกยตื้นหมู่
ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ ก่อนจะรายงานสิ่งที่ได้พบ
พวกเขาได้ตระเวนดูท่ามกลางฝูงวาฬที่ถูกซัดขึ้นมา
เด็กชายคนหนึ่งมีกล้องโทรศัพท์มือถือ
เขาใช้มันบันทึกภาพสถานที่เกิดเหตุเกยตื้นหมู่ และสังเกตเห็นสิ่งอื่น
มันเป็นสิ่งที่เขาคิดว่ามันดูแปลก สิ่งที่ดูไม่เหมือนวาฬตัวอื่น ๆ
สิ่งที่เด็กสองคนนี้อ้างว่าพวกเขาได้เห็นจะถูกบรรยายแตกต่างกันไปในรายงาน
ฉบับต่าง ๆ ของทางการ<br />
<br />
เอ็นโอเอเอตามรอยเรื่องลี้ลับนี้มานานหลายปี
หลังพบปลาที่ถูกจับในทะเลเปิดมีฉมวกแทงอยู่
และตอนนี้มีคนพบพวกมันถูกซัดขึ้นมาเกยหาดพร้อมกับพวกวาฬ<br />
<br />
“ก่อนหน้านั้นผมเคยได้ยินเรื่องสิ่งประหลาด ๆ
ที่พบในปลาซึ่งถูกจับกลางทะเลบอลติก
แต่ผมได้เห็นกับตาตัวเองเมื่อเราลากอวนในน้ำลึกบริเวณที่เป็นแอ่ง
บางครั้งเมื่อเราดึงอวนขึ้นมา เราจะพบปลาซึ่งเพิ่งถูกฆ่า
ปลาซึ่งมีฉมวกปักด้านข้าง
ในการออกเรือเที่ยวหนึ่งผมเอากล้องไปด้วยตั้งใจจะถ่ายรูปวาฬที่ผมเห็นเพื่อ
เอาไปให้ลูกชายดู
ครั้งนี้เองที่เราลากอวนเข้ามาและเห็นว่ามีอะไรบางอย่างปีนออกจากอวนในขณะ
ที่เราดึงเข้ามา ผมวิ่งไปหยิบกล้องและถ่ายรูปมันได้รูปหนึ่ง
ผมคิดว่านี่คือตัวที่ทำฉมวก ผมคิดว่าเราคงไปรบกวนการจับปลาของคนอื่น” ฮันส์
เบาเออร์ ชาวประมงเยอรมันบอกเล่า<br />
<br />
และระหว่างการค้นหาเหตุผลที่ทำให้วาฬเกยตื้นในแอฟริกาใต้
พวกเขาก็พบหลักฐานสำคัญที่จะไขความลี้ลับที่ค้นหามานาน
เมื่อฉลามขาวมาตะลุยกินซากวาฬที่มาเกยตื้น
แต่สิ่งที่น่าสนใจไม่ใช่ฉลามหากแต่เป็นสิ่งที่อยู่ในตัวมัน
มีบางส่วนที่ดูเหมือนอาจจะมาจากโลมา บางส่วนดูเหมือนจะมาจากแมวน้ำ
แต่ไม่ใช่แมวน้ำหรือโลมาที่เราเคยพบ และมีอวัยวะส่วนอื่น ๆ ด้วย<br />
<br />
“มีรอยแทงรอบ ๆ เหงือกและปากฉลาม
และตอนแรกผมคิดว่านี่อาจจะเป็นอาการบาดเจ็บที่ได้รับตอนที่มันถูกเกี่ยวมา
ติดข้างเรือ แต่ผมแหย่เข้าไปในรอยหนึ่ง และผมพบเงี่ยงปลากระเบนอยู่ข้างใน
นี่อาจจะเกิดจากปลากระเบนป้องกันตัว ฉลามกินปลากระเบน ฉลามหัวค้อนกิน
ฉลามเสือกิน แต่ฉลามขาวไม่กิน” ดร.ไบรอัน แม็คคอร์มิค นักชีววิทยาทางทะเล
ระบุถึงสิ่งที่พบ<br />
<br />
นี่อาจเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่มีวิวัฒนาการมาจากทฤษฎีลิงน้ำ
ที่อพยพจากบนบกลงสู่ทะเลและกระจายตัวอยู่ตลอดแนวชายฝั่งของทวีปแอฟริกา
พวกเขานำซากที่มีเพียง 30% กลับไปที่ห้องทดลอง<br />
<br />
ฟันของมันเป็นเรื่องน่าพิศวงจริง ๆ
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลจะมีฟันแบบโฮโมดอนต์
ซึ่งแปลว่ามีฟันซึ่งมีขนาดและรูปร่างเหมือนกันหมด
แต่ฟันของตัวอย่างนี้ไม่ใช่ มันมีฟันกราม ฟันหน้า ฟันเขี้ยว
เป็นฟันแบบสิ่งมีชีวิตที่กินทั้งพืชและสัตว์
ไม่มีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลชนิดไหนที่กินทั้งพืชและสัตว์<br />
<br />
ในบรรดาชิ้นส่วนทั้งหมดที่มี แพนหางคือส่วนที่ถูกเก็บไว้ในสภาพดีที่สุด
มันดูคล้ายหางพะยูนมาก
และครั้งหนึ่งเคยมีพะยูนพันธุ์น้ำเย็นอาศัยอยู่ตามชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก
แต่พวกมันถูกล่าจนสูญพันธุ์ บางทีนี่อาจจะเป็นพะยูนพันธุ์นั้น
อาจจะเป็นประชากรที่หลงเหลือ หรือญาติซึ่งไม่เคยถูกค้นพบของสัตว์ชนิดนี้
แต่เมื่อถ่ายภาพเอกซเรย์กลับพบว่ามีกระดูกในแพนหาง
แต่พะยูนไม่มีกระดูกแบบนั้น ไม่มีวาฬชนิดไหนมีกระดูกในแพนหาง<br />
<br />
เมื่อวิเคราะห์ชั้นเนื้อเยื่อที่ลึกลงไปพบว่า มีกรดไขมันที่พิเศษมาก
ซึ่งสามารถคงสภาพเป็นของเหลวและทำหน้าที่เป็นฉนวนได้แม้จะอยู่ในน้ำเย็นจัด
และยังพบโปรตีนในเลือดที่เรียกว่าไมโอโกลบิน
ซึ่งทำหน้าที่เก็บออกซิเจนไว้ในกล้ามเนื้อ
และพบเครือข่ายหลอดเลือดที่ช่วยเก็บความร้อนให้ระบบอวัยวะสำคัญ ๆ
ทั้งสองสิ่งนี้เป็นการปรับตัวที่พบในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเล
ขณะที่ม้ามขนาดใหญ่ใช้เก็บกักออกซิเจนและเลือด
และเก็บออกซิเจนไว้ระหว่างดำน้ำลึก มันเหมือนมีถังสกูบาติดตั้งอยู่ภายในตัว<br />
<br />
ส่วนกระดูกตะโพกที่พบนั้นบ่งบอกว่า สิ่งมีชีวิตตัวนี้มีโครงสร้างตะโพกแบบเดียวกับสัตว์ที่ยืนตัวตรง ครั้งหนึ่งมันเคยเดินสองขา<br />
<br />
“ศพนี้เป็นหนึ่งในการค้นพบครั้งสำคัญที่สุดในทางมานุษยวิทยา
จนอาจจะเป็นหนึ่งในการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ครั้งสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์
มนุษย์ นิยามประวัติศาสตร์มนุษย์คงจะต้องถูกเขียนใหม่
นี่คือนักประดิษฐ์เครื่องมือซึ่งมีเชาวน์ปัญญา
และมีมือที่หยิบจับสิ่งของได้ ซึ่งวิวัฒนาการมาจากบรรพบุรุษจำพวกลิง
บรรพบุรุษซึ่งเดินตัวตรงบนพื้นดินเหมือนพวกเรา” ดร.พอล โรเบิร์ตสัน
หนึ่งในทีมงานระบุ<br />
<br />
ขณะที่ ดร.ลีแอน ฟิซเซอร์ นักนิติมานุษยวิทยาในภาควิชาวิวัฒนาการมนุษย์
มหาวิทยาลัยวิทวอเตอร์สรานด์ในแอฟริกาใต้ สแกนกะโหลกที่ถูกประกอบขึ้นมาใหม่
และพบว่า
ช่องเปิดที่เศษชิ้นส่วนกะโหลกด้านหน้านั้นเชื่อมต่อกับโพรงไซนัสมากมายภายใน
กะโหลก
รูปร่างและลักษณะของกะโหลกนี้เผยให้เห็นว่าสิ่งมีชีวิตชนิดนี้มีศักยภาพใน
การทำเสียงได้อย่างสลับซับซ้อนเพียงใด
รูปทรงเว้าที่ด้านหน้าของกะโหลกบ่งชี้ว่ามันมีเมลาน
มวลเนื้อเยื่อไขมันพิเศษที่ทำให้โลมาและวาฬอื่น ๆ
สามารถรู้ตำแหน่งของสิ่งต่าง ๆ ด้วยเสียงสะท้อนAnonymoushttp://www.blogger.com/profile/09831489142569809494noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-503040757511144233.post-47481151190337742142012-08-06T20:38:00.003-07:002012-08-06T20:38:54.462-07:00นางมโนราห์<span style="color: black;"><span style="font-size: x-small;"><span style="font-size: x-small;"><span style="font-size: x-small;"> </span></span></span></span><br />
<br />
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiRcy29TTiq2PY4ZJzKieco16V9kwylSkhkHPI44SwIE9UgSMpDJbIKvFKWjHTjqBUkQSLvJ6ChF-4f6Rz3qgUpQ2RRz0x38Zpq10AS11KLdvseWUcAt6a8TtHwMe6LOJfy13ku1-6SGec/s1600/zpGOQ7faqDJ0MyR7tOm0g2dnOelmsc5nyTv2OfWh3m_0.jpg" imageanchor="1" style="clear: right; float: right; margin-bottom: 1em; margin-left: 1em;"><img border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiRcy29TTiq2PY4ZJzKieco16V9kwylSkhkHPI44SwIE9UgSMpDJbIKvFKWjHTjqBUkQSLvJ6ChF-4f6Rz3qgUpQ2RRz0x38Zpq10AS11KLdvseWUcAt6a8TtHwMe6LOJfy13ku1-6SGec/s320/zpGOQ7faqDJ0MyR7tOm0g2dnOelmsc5nyTv2OfWh3m_0.jpg" width="240" /></a><span style="color: black;"><span style="font-size: x-small;"><span style="font-size: x-small;"><span style="font-size: x-small;"> </span></span></span></span><br />
<span style="font-size: x-large;"><span style="color: black;"><span><span><span> นางมโนราห์</span></span></span></span></span><br />
<br />
<span style="color: black;"><span style="font-size: x-small;"><span style="font-size: x-small;"><span style="font-size: x-small;"> นางมโนราห์<span style="color: black;">เป็น
ธิดาองค์เล็กของท้างทุมราชผู้เป็นพระยากินนร
นางมีพระพี่นางอีกหกองค์ล้วนมีหน้าตาเหมือน ๆ กัน
งดงามยิ่งกว่านางมนุษย์
รูปร่างหน้าตาของพวกเขาเหมือนมนุษย์แต่มีปีกและหางที่ถอดออกได้
เมื่อใส่ปีกใส่หางแล้วกินนรก็สามารถบินไปยังที่ต่าง ๆ ได้
นางมโนราห์และพี่น้องทั้งหกได้ไปเล่นน้ำที่สระน้ำอโนดาต
เจอพรานบุญที่ต้องการจับตัวนางกินรีเพราะเห็นว่านางงดงามคู่ควรแก่พระสุธน
โอรสแห่งเมือง ปัญจาลนคร พรานบุญจึงไปยืมบ่วงนาคบาศจากท้าวชมพูจิต
พญานาคราช ซึ่งได้ให้ยืมบ่วงนาคบาช
เพราะพรานบุญเคยช่วยชีวิตเอาไว้และเห็นว่าพระสุธนกับนางมโนราห์เป็นเนื้อคู่
กัน พรานบุญได้จับนางมโนราห์ไปถวายแค่พระสุธน
พระสุธนเห็นเข้าก็เกิดหลงรักนางและพานางกลับเมือง และได้อภิเษกกัน
ต่อมาปุโรหิตคนหนึ่งได้เกิดจิตอาฆาตแค้นแก่พระสุธนเพราะว่าพระสุธนไม่ให้
ตำแหน่งแก่บุตรของตน เมื่อถึงคราวเกิดสงคราม พระสุธนออกไปรบ
พระบิดาได้ทรงพระสุบิน ปุโรหิตได้ทำนายว่าจะเกิดภับพิบัติครั้งใหญ่
ให้นำนางมโนราห์ไปบูชายัญ ซึ่งท้าวอาทิตยวงศ์ได้ยินยอมตามนั้น
นางมโนราห์รู้เข้าก็เกิดตกใจ จึงออกอุบาย ของปีกกับหางขอนางคืน
เพื่อร่ายรำหน้ากองไฟก่อนจะตาย เมื่อนางได้ปีกกับหางแล้ว
นางก็ร่ายรำได้สักพักก็บินหนีไป ไปเจอฤาษีก็ได้กล่าวกับฤาษีว่า
หากพระสุธนตามมาให้บอกว่าไม่ต้องตามนางไป
เพราะมีภยันอันตรายมากมาย และได้ฝากภูษาและธำมรงค์ให้พระสุธน
เมื่อนางมโนราห์ได้กลับไปที่เมืองก็จะได้มีพิธีชำระล้างกลิ่นอายมนุษย์
ฝ่ายพระสุธนที่กลับจากสงครามได้ลงโทษปุโรหิต และติดตามหานางมโนราห์
เมื่อเจอพระฤาษี พระสุธนจะติดตามนางมโนราห์ต่อไป โดยมีพระฤาษีค่อยช่วยเหลือ
เปนเพราะเวรกรรมแต่ชาติที่แล้วนั่นคือ นางมโนราห์คือ พระนางเมรี
และพระสุธนคือ พระรถเสน ทำให้พระสุธนได้รับความลำบากมาก
เมื่อพระสุธนมาถึงสระน้ำอโนดาต
ได้แอบเอาพระธำมรงค์ใส่ลงในคณโฑของนางกินรีนางหนึ่ง
ซึ่งนางกินรีได้นำน้ำนั้นไปสรงให้นางมโนราห์
พระธำมรงค์ได้ตกลงมาที่แหวนของนางพอดี ทำให้นางรู้ว่าพระสุธนมาหานาง
นางจึงได้แจ้งแก่พระมารดา
ซึ่งพระบิดาต้องการทราบว่าพระสุธนมีความรักจิงต่อนางมโนราห์หรือไม่
ได้รับพระสุธนมาที่เมืองและให้พระสุธนบอกว่านางไหนคือนางมโนราห์
ซึ่งนางมโนราห์และพี่ๆๆมีหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกัน ร้อนถึงองค์อินทร์
ต้องแปลงกายมาเป็นแมลงวันทอง จับที่ผมของนางมโนราห์
ทำให้นางมโนราห์และพระสุธนได้เคียงคู่อย่างมีความสุข</span></span></span></span></span>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/09831489142569809494noreply@blogger.com0