วันอังคารที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2555

 
 
 กินรี

       กินรีมีต้นกำเนิดที่แท้จริงเป็นมาอย่างไรนั้นยังไม่พบตำราไหนกล่าวไว้ชัดเจน แต่ในเทวะประวัติของพระพุธกล่าวไว้ว่า เมื่อท้าวอิลราชประพาสป่าแล้วหลงเข้าไปในเขตหวงห้ามของพระศิวะนั้น ท้าวอิลราช และบริวารถูกสาปให้แปลงเพศเป็นหญิงทั้งหมด ต่อมานางอิลา คือ ท้าวอิลราชถูกสาป และบริวารที่มาเล่นน้ำอยู่ใกล้อาศรมของพระพุธ เมื่อพระพุธเห็นนางเข้าก็ชอบ รับนางเป็นชายา และเสกให้บริวารของนางกลายเป็น กินรี โดยบอกว่าจะหาผลาหารให้กิน และจะหากิมบุรุษให้เป็นสามี แสดงว่า กิมบุรุษ หรือ กินนร และกินรีมีต้นกำเนิดมาจากการเสกของพระพุธ
ในหนังสือของ พี.ธอมัส กล่าวว่าที่เชิงเขาเมรุเป็นที่อยู่ของคนธรรพ์ กินร และสิทธิ์ และว่าคนธรรพ์กับกินนรเป็นเชื้อสายเดียวกัน ส่วนในภัลลาติชาดก กล่าวว่า กินนรมีอายุ ๑,๐๐๐ ปี และธรรมดากินนรนั้นย่อมกลัวน้ำเป็นที่สุด ซึ่งน่าจะขัดแย้งกับอุปนิสัยกินนรในเรื่องพระสุธน เพราะนางมโนห์ราชอบไปเล่นน้ำที่สระกลางป่าหิมพานต์ จึงถูกพรานบุญดักจับตัวได้
นางสุวรรณมาลี

        นางสุวรรณมาลีลูกสาวแสนสวยของ ท้าวสิลราช เจ้าเมืองผลึก ได้ฝันเห็นเกาะในทะเล จึงออกเดินทางตามความฝัน ระหว่างทางเจอพายุเรือถูกพัดมาที่เกาะแก้วพิสดาร พระอภัยมณีกับสินสมุทรจึงขอติดเรือไปด้วย แต่ออกจากเกาะไม่ทันไรก็เจอนางผีเสื้อสมุทรอาละวาดจนเรือล่ม ท้าวสิลราชสิ้นชีพ พระอภัยมณีจำต้องเป่าปี่สังหารนางผีเสื้อสมุทร

พระอภัยพานางสุวรรณมาลีกลับเมืองผลึก นางมณฑาเต็มใจยกทั้งเมืองและลูกสาวให้พระอภัยมณี นางสุวรรณมาลีจึงได้เป็นเมียคนที่3ของพระอภัยฯ แต่เป็นเมียที่เป็นมนุษย์คนแรก มีลูกสาว2คนคือ สร้อยสุวรรณ จันทรสุดา ซึ่งถือเป็นเมียที่มีความเพรียบพร้อมมากที่สุด ทั้งรูปร่างหน้าตา อุปนิสัย สติปัญญา ชาติตระกูล ฐานะ
          นางวาลี

เมียคนที่ 4 ของพระอภัยดูจะต่างจากคนที่ผ่านมา เพราะนางวาลีจัดว่าเป็นเมียที่ขี้เหร่ที่สุด แถมยังมาเสนอตัวขอให้พระอภัยมณีเป็นสามีเองอีก แรกเริ่มเดิมทีพระอภัยมณีเองก็ไม่เต็มใจนัก แต่นางวาลีเป็นผู้หญิงที่มีสติปัญญาและวาจาเป็นเลิศ เพราะสามารถเกลี้ยกล่อมชักแม่น้ำทั้งห้า โน้มน้าวใจให้รับนางเป็นเมียจนได้

แม้ว่านางจะไม่สวย แต่ถ้าเทียบกับเมียคนอื่น นางวาลีถือเป็นเมียที่ฉลาดที่สุด และพระอภัยฯก็คุ้มมากที่ตัดสินใจรับนางเป็นเมีย เพราะนางได้ช่วยพระอภัยให้คืนดีกับนางสุวรรณมาลี และยังช่วยวางแผนในการทำศึกสงครามอีกหลายครั้ง

นางวาลี มีรูปร่างหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ ตัวดำ ที่ใบหน้ามีรอยแผลเป็นเต็มไปหมด จึงอยู่เป็นสาวโสดจนอายุได้ 34 ปี แต่นางก็ใฝ่ฝันว่าอยากมีสามีรูปงามและสูงศักดิ์ พ่อแม่ของนางตายหมดตั้งแต่นางยังเด็กจึงอาศัยอยู่กับตายาย นางวาลีได้ศึกษาเล่าเรียนตำรับตำราของตาจนมีความรู้แตกฉาน เมื่อ พระอภัยมณี ประกาศรับสมัครคนดีมีฝีมือเข้ารับราชการ นางวาลีก็ไปสมัคร และขอให้พระอภัยมณีแต่งงานกับนางด้วย พระอภัยมณีเห็นว่านางมีสติปัญญาเป็นเลิศและมีความรู้ดี จึงแต่งตั้งให้นางเป็นสนมเอก นางเป็นผู้ออกอุบายให้จับตัว อุศเรน ได้ และใช้วาจาพูดเยาะเย้ยจนอุศเรนอกแตกตาย แต่นางถูกปีศาจของอุศเรนเข้าสิงร่างจนป่วยหนักและถึงแก่ความตายในที่สุด
นางละเวงวัลฬา        เมียคนสุดท้ายคือ นางละเวง ซึ่งมีนิสัยออกจะเป็นนางร้ายสักหน่อย แค้นเคืองที่พี่ชาย(อุศเรน) เสียชีวิต จึงส่งรูปตัวเองไปยังเจ้าเมืองต่างๆหลอกให้ไปตีเมืองผลึก ว่ากันว่านางละเวงที่มีเชื้อสายเป็นฝรั่งมีรูปงามยิ่งนัก ขนาดพระอภัยฯได้เห็นแค่รูปยังหลงใหลพรํ่าเพ้อ

เมื่อคราวรบกัน พระอภัยมณีไม่ยอมให้นางละเวงหนี จึงเป่าปี่และเผยตัวให้พบจนนางละเวงหวั่นไหวไปเหมือนกัน ภายหลังเมื่อนางละเวงจับตัวพระอภัยได้ จึงกลับตกหลุมรักทันทีที่เห็นหน้า ยิ่งเจอไม้ตาย คำมั่นสัญญา ของพระอภัยมณีที่ว่า

ถึงม้วยดินสิ้นฟ้ามหาสมุทร ไม่สิ้นสุดความรักสมัครสมาน
แม้อยู่ในใต้หล้าสุธาธาร ขอพบพานพิศวาสไม่คลาดคลา
แม้นเนื้อเย็นเป็นห้วงมหรรณพ พี่ขอพบศรีสวัสดิ์เป็นมัจฉา
แม้เป็นบัวตัวพี่เป็นภุมรา เชยผกาโกสุมปทุมทอง
แม้เป็นถ้ำอำไพใคร่เป็นหงษ์ จะร่อนลงสิงสู่เป็นคู่สอง
ขอติดตามทรามสงวนนวลละออง เป็นคู่ครองพิศวาสทุกชาติไป



นางละเวง จึงใจอ่อนยอมเป็นเมียคนที่5ของพระอภัยมณี
              

      นางอัปสร


       นางอัปสรที่ใกล้คนไทยที่สุดเห็นจะเป็นนางอัปสรนครวัด     ของไทยเราไม่มีนางอัปสรที่เด่นชัดขนาดนั้น  
แต่ถ้าเป็นนางฟ้าถือพานโปรยดอกไม้วาดไว้ตามบัตรอวยพรรุ่นเก่าๆ หรือตามผนังโบสถ์ละก็ มีเยอะ

มาคุยกันเรื่องนางอัปสรดีกว่า
อัปสร มาจากภาษาสันสกฤต  ถ้าบาลีเรียกว่าอัจฉรา  เรารับมาทั้งสองคำ  ใช้ในความหมายว่านางฟ้า
ต้นกำเนิดของนางอัปสร มาจากตำนานการกวนเกษียณสมุทร     หลังจากเทพและอสูรกวนเกษียณสมุทรเพื่อเอาน้ำทิพย์แล้ว    สิ่งที่ผุดขึ้นจากการกวนมีหลายอย่าง   หนึ่งในจำนวนนั้นคือกลุ่มนางอัปสร  เป็นหญิงงามทั้งหมด

แต่จะด้วยอะไรก็ตาม   หญิงเหล่านี้ไม่มีเทวะองค์ไหนรับไปเป็นชายาประจำตัวเสียให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดลงไป    คงปล่อยนางไว้ลอยๆ  บนสวรรค์

แต่จะว่าเป็นอิสระมีสิทธิสตรีแบบหญิงแกร่งก็ไม่ใช่   เพราะเทพมักจะใช้นางอัปสรลงไปปฏิบัติงานบนโลกเป็นประจำ    หน้าที่หลักก็คือไปยั่วยวนทำลายตบะของฤาษีที่ทำท่าว่าบำเพ็ญนานแล้วจะเก่งกว่าเทวดา   พอฤาษีเสียที นางก็กลับขึ้นสู่สวรรค์  
แต่บางครั้งเคราะห์ร้าย  ถูกฤาษีโกรธสาปเอาให้มีอันเป็นไปก็มี    ส่วนเทวดาผู้ใช้นางไปทำงานนั้นกลับรอดตัว  ไม่แฟร์เท่าไหร่เลยนะคะ

นางอัปสรชื่อเมนกา เคยไปทำลายตบะของฤาษีวิศวามิตรสำเร็จ  มีลูกสาวออกมาชื่อศกุนตลา  พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าทรงพระราชนิพนธ์เรื่องของนางไว้ชื่อ "ศกุนตลา" เป็นของขวัญแด่พระคู่หมั้น คือพระวรกัญญาปทาน